เปิดคลังยารักษาสิวที่ดีที่สุดยี่ห้อไหนดี ? รีวิว10 อันดับ ยารักษาสิว ที่ดีที่สุดในปี 2022

เปิดคลังยารักษาสิวที่ดีที่สุดยี่ห้อไหนดี ? รีวิว 10 อันดับ ยารักษาสิว ที่ดีที่สุดใน ปี 2022

สิว เป็นปัญหาใหญ่ของใครหลายคน เนื่องจากก่อให้เกิดความรู้สึกกังวลและไม่มั่นใจ ปัจจุบันมียารักษาสิวหลากชนิด หลายรูปแบบในท้องตลาด ซึ่งมีการออกฤทธิ์และความเหมาะสมในผู้ป่วยแต่ละรายแตกต่างกันไป

• สำหรับผู้ที่มีสิวไม่อักเสบหรือมีสิวอักเสบเพียงเล็กน้อย นิยมใช้ยาในรูปแบบทา โดยยาทาที่พบบ่อย ได้แก่

1. ยาทาที่มีฤทธิ์ผลัดเซลล์ผิว ส่วนใหญ่อยู่ในรูปแบบครีมหรือเจล ใช้ทาบาง ๆ ทั่วใบหน้าหรือบริเวณที่มีสิว วันละ 1-2 ครั้ง เช่น benzoyl peroxide, adapalene, retinoic acid ผลข้างเคียงที่พบคือ ระคายเคืองผิวหนัง ผิวลอก แสบผิว หรือยา retinoic acid จะทำให้มีสิวเห่อมากขึ้นเล็กน้อยในช่วงแรกที่เริ่มใช้ยา อาการข้างเคียงเหล่านี้แก้ไขได้ด้วยการลดความเข้มข้นหรือลดระยะเวลาที่ทา ยากลุ่มนี้แนะนำให้ผู้ใช้หลีกเลี่ยงแสงแดด หรือทาผลิตภัณฑ์กันแดดร่วมด้วย นอกจากนี้ยา retinoic acid ยังมีข้อห้ามใช้ในสตรีมีครรภ์

2. ยาทาที่เป็นยาปฏิชีวนะ รูปแบบโลชั่นและเจล ตัวยาปฏิชีวนะที่นิยมใช้รักษาสิว ได้แก่ clindamycin และ erythromycin ใช้ทาเฉพาะบริเวณที่มีสิวอักเสบ วันละ 2-3 ครั้ง ผลข้างเคียง คือ ผิวลอก ผิวบาง แสบผิว ในทางปฏิบัตินิยมใช้ยาทาปฏิชีวนะควบคู่ไปกับยา benzoyl peroxide เพื่อลดปัญหาเชื้อดื้อยา

• สำหรับผู้ที่มีสิวอักเสบหรือสิวตุ่มหนองจำนวนมาก อาจมีการใช้ยารับประทานร่วมด้วย ตัวอย่างยารับประทาน ได้แก่

1. ยารับประทานที่เป็นยาปฏิชีวนะ มักต้องใช้ยานานหลายสัปดาห์จึงจะมีประสิทธิภาพในการลดจำนวนเชื้อแบคทีเรียก่อสิว ยาที่มีจำหน่ายได้แก่ tetracycline และ doxycycline แนะนำให้รับประทานหลังอาหาร เนื่องจากมีผลข้างเคียงทำให้คลื่นไส้อาเจียน ควรห่างจากนม แคลเซียม และวิตามินที่มีธาตุเหล็ก เนื่องจากทำให้การดูดซึมของยาลดลง หลีกเลี่ยงการใช้ในสตรีมีครรภ์และให้นมบุตร ยาปฏิชีวนะเหล่านี้ มีผลอาจทำให้ผิวไวต่อแสง จึงควรใช้ผลิตภัณฑ์กันแดดร่วมด้วย

2. ยารับประทานอื่น ๆ มักจะใช้ในผู้ที่มีสิวอักเสบรุนแรงเป็นจำนวนมาก ตัวยาที่มีจำหน่าย ได้แก่ isotretinoin ควรรับประทานหลังอาหารเพื่อเพิ่มการดูดซึมและห้ามใช้ในสตรีมีครรภ์ เนื่องจากอาจเกิดอันตรายต่อทารก ดังนั้น สตรีที่ต้องการใช้ยานี้ต้องคุมกำเนิดตลอดการใช้ยาและอยู่ในการดูแลของแพทย์ ผลข้างเคียงที่พบได้ เช่น ผิวแห้ง ปากลอก ผมร่วง ตาแห้ง ผิวไวต่อแสงจึงควรใช้ผลิตภัณฑ์กันแดดควบคู่กันด้วย แต่หากมีอาการมองเห็นไม่ชัด หรืออาการตาแห้งรุนแรง ให้รีบมาพบแพทย์ทันที

นอกจากนี้ยังมียารักษาสิวที่เป็นยาฮอร์โมนรวม หรือยาคุมกำเนิด เนื่องจากฮอร์โมนเพศก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่มีผลให้เกิดสิวได้ ยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวมนี้นิยมใช้ในสตรีที่มีสิวระดับปานกลางถึงรุนแรง ผลข้างเคียงที่พบ เช่น คลื่นไส้ อาเจียน เวียนศีรษะ เลือดออกกะปริดกะปรอย อย่างไรก็ตามหากต้องการใช้ยาเหล่านี้ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อน

จะเห็นว่าเพื่อให้การรักษาสิวด้วยยาเกิดประสิทธิภาพสูงสุด ลดผลข้างเคียงที่อาจเกิด มีข้อควรระวังหรือคำแนะนำการปฏิบัติตัวที่เหมาะสมควบคู่เสมอ อีกทั้งเราควรดูแลทำความสะอาดผิวหน้าเป็นประจำ พักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ หลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้น เช่น ความเครียด การสัมผัส แกะ เกาใบหน้า เพื่อลดสาเหตุอื่น ๆ ที่อาจกระตุ้นการเกิดสิว

วันนี้เรามาดู 10 อันดับยารักษาสิว ที่ฮิตที่สุด กันเลยค่ะ

Mikado Anti Acne Gel

มาอีกหนึ่งแบรนด์ที่ได้รับการพูดถึงอยู่บ่อยๆ นั่นคือแบรนด์ Mikado Anti Acne Gel หรือ มิกาดู แอนติ แอคเน่ เป็นเจลแต้มสิวที่ช่วยลดการอักเสบ และช่วยลดรอยสิวได้ในหลอดเดียว เรียกได้ว่า 2 in 1 เลยนะคะ  ด้วยส่วนผสมของ สารสกัดจากคาโมมายด์, PURE Salicylic Acid, Tea Tree Oil, Vitamin B3, สารสกัดจากนมผึ้ง และ Zinc จึงมีคุณสมบัติที่ช่วยควบคุมความมัน ที่เป็นหนึ่งในสาเหตุของการเกิดสิว อีกทั้งยังมีสารสกัดที่ช่วยลดเลือนรอยสิวให้จางไวด้วยวิตามิน B3 อีกด้วย

ที่สำคัญเหมาะกับผิวแพ้ง่ายมากๆ ผิวที่ระคายเคืองง่าย เป็นผิวติดสารสเตียรอยด์มา หรือเป็นสิวฮอร์โมน รักษาไม่เคยหาย ใช้เจลแต้มสิวหลายแบรนด์ไม่หาย อยากให้ลองแบรนด์มิกาดูเลยค่ะ หลอดเดียวที่ช่วยเปลี่ยนผิวที่มีสิว ให้เป็นผิวที่เรียบเนียน ผิวใสอย่างแน่นอน เพียงสั่งทางช่องทางออนไลน์ได้เลยค่ะ

จุดเด่น

– ช่วยลดการอักเสบของสิว สิวแห้งเร็ว ยุบไว ไม่มีอันตราย

– ปราศจากแอลกอฮอล์ ไม่ใส่สารสี ไม่มีสารกันเสีย เช่น พาราเบน

– ลดรอยดำ รอยแดงที่เกิดจากสิว

– ช่วยป้องกันการเกิดสิวใหม่

เนื้อสัมผัส: เนื้อเจลใส

เหมาะกับ: สิวอักเสบ, รอยดำ รอยแดงที่เกิดจากสิว

ปริมาณ: 10 กรัม

ราคา: 129 บาท

ช่องทางซื้อผ่าน

Shopee : Mikado Anti Acne Gel

Lazada : Mikado Anti Acne Gel

Eucerin Pro ACNE SOLUTION A.I. CLEARING TREATMENT 

จุดเด่น : ครีมรักษาสิวอุดตันอันดับหนึ่งในใจใครหลาย ๆ คน ที่มีส่วนประกอบสำคัญอย่าง ‘10% Hydroxy acid’ เข้าสลายสิ่งสกปรกอุดตันถึงร่องรูขุมขน และช่วยผลัดเซลล์ผิวเพื่อกำจัดสิวอย่างอ่อนโยน ให้ผิวเรียบเนียนใสขึ้นได้ใน 7 วัน มาพร้อมกับ ‘A.I. Innovation’ จากสารสกัดจากธรรมชาติ Licochalcone A ช่วยลดการระคายเคือง ฟื้นบำรุงให้ผิวชุ่มชื้นแข็งแรง ไม่ทำให้ผิวแห้งลอก ที่สำคัญคือผ่านการทดสอบการแพ้แล้ว ผิวบอบบางแพ้ง่ายสามารถใช้ได้ ไม่ทำให้อุดตัน และลดโอกาสเกิดสิวซ้ำ ใครที่มีปัญหาสิวอุดตัน ใช้ตัวนี้เอาอยู่แน่นอน!

เนื้อสัมผัส : เนื้อครีมสีเหลืองอ่อน บางเบา ซึมไว ไม่เหนอะหนะ

เหมาะกับใคร : คนที่เป็นสิวอุดตัน ผิวแพ้ง่าย

ปริมาตร : 40 ml.

ราคา : 1,100 บาท (ml. ละ 27.50 บาท)

พิกัด : Watsons, Boots, Eve and Boy และร้านขายยาขนาดใหญ่ทั่วประเทศ หรือสั่งซื้อออนไลน์ได้ที่ Eucerin  

The Ordinary Salicylic Acid 2% Solution

จุดเด่น : เซรั่มลดสิวอุดตันตัวดังของ The Ordinary เขาใส่ Salicylic Acid มาให้ถึง 2% ซึ่งตัวนี้จะช่วยละลายไขมันใต้ชั้นผิวหนังที่ก่อให้เกิดสิวอุดตัน และช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าที่เสียแล้วให้หลุดลอกไป ใครเป็นสิวอุดตันมานานไม่หายสักที อยากให้ลองตัวนี้มาก

เนื้อสัมผัส : เซรั่มใส ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น เนื้อหนืด ๆ หน่อย แต่เกลี่ยง่ายและซึมไว

เหมาะกับใคร : ผิวมัน ผิวมีสิวอุดตัน ไม่แนะนำให้ใช้กับผิวแพ้ ระคายเคืองง่าย เพราะจะทำให้ผิวบางขึ้น

ปริมาตร : 30 ml.

ราคา :  ประมาณ 350-610 บาท (ml. ละ 11.67-20.33 บาท)

พิกัด : หาซื้อออนไลน์ได้ทั่วไป

It’s Skin Power 10 Formula Propolis 

จุดเด่น : มีสารสกัดจาก Propolis ที่ได้จากผึ้ง ซึ่งถือเป็นวัตถุดิบดีจากธรรมชาติ เพราะช่วยลดการติดเชื้อและการอักเสบของสิวเป็นครีมรักษาสิวอุดตันได้  และใช้ไปแล้วจะได้ผิวที่แข็งแรงและยืดหยุ่นขึ้น แถมยังช่วยลดเลือนริ้วรอยแห่งวัยเป็นของแถมอีกด้วย

เนื้อสัมผัส : เป็นเซรั่มเข้มข้น ที่เนื้อบางเบา ไม่ทำให้หน้ามัน สามารถซึมสู่ผิวได้เป็นอย่างดี

เหมาะกับใคร : คนเป็นสิวที่ไม่ชอบเนื้อสัมผัสแบบเนื้อครีมที่หนักหน้า 

ปริมาตร : 30 ml.

ราคา : 850 บาท (ml. ละ 28.33 บาท)

พิกัด : It’s Skin ทุกสาขา 

La Roche-Posay Effaclar DUO (+) 

จุดเด่น : เป็นครีมรักษาสิวอุดตัน รอยดำ รอยแดงจากสิวสูตรใหม่ ที่ลดปัญหาสิวเกิดซ้ำ เพราะมี AQUA POSAE FILIFORMIS, APF มีคุณสมบัติปรับสมดุลของเชื้อแบคทีเรียบนผิว (Microbiome) เพิ่มเชื้อแบคทีเรียที่ดี มีประโยชน์ต่อผิว บวกกับมี Procerad มาช่วยลดรอยดำและรอยแดงที่เกิดจากสิว มี LHA และ Salicylic Acid ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน มี Piroctone Olamine ลดการสะสมของเชื้อแบคทีเรีย และสุดท้ายคือมี Zinc PCA มาช่วยลดความมันและลดการเกิดสิว

เนื้อสัมผัส : เป็นเนื้อครีม ไม่มัน ไม่เหนียวเหนอะหนะ

เหมาะกับใคร : สาวผิวบอบบาง แพ้ง่าย เป็นสิวง่ายต้องลองเลย หลงรักแน่

ปริมาตร : 40 ml.

ราคา : 990 บาท (ml. ละ 24.75 บาท)

พิกัด : Watsons, Eveandboy, Boots และ เคาน์เตอร์ La Roche Posay  

COSRX Propolis Light Ampule

จุดเด่น : ตัวนี้ก็เป็น Propolis เข้มข้นที่สกัดจากผึ้งดำ แต่มาในรูปแบบ Ampule ใช้ง่าย ตัวนี้ช่วยฟื้นบำรุงผิวที่เสื่อมสภาพให้กลับมานุ่มชุ่มชื่น และยังช่วยให้ผิวกระจ่างใสและรักษาสิวด้วย ยังมี สารสกัดจากเมล็ด Cassia ที่มาช่วยลดรอยแดงและการอักเสบของสิวด้วยนะ

เนื้อสัมผัส : เป็นเนื้อเซรั่มสีเหลืองใส ใช้แล้วให้ความรู้สึกผ่อนคลายผิวและรู้สึกผิวนุ่มชุ่มชื่นขึ้น

เหมาะกับใคร : เหมาะกับสาวผิวแห้งกร้านที่กำลังเป็นสิว 

ปริมาตร : 20 ml.

ราคา : 1,090 บาท (ml. ละ 54.5 บาท)

พิกัด : COSRX @Siam Center 

Giovanni D:TOX System® Replenishing Facial Moisturizer 

จุดเด่น : ใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติ 100% บวกกับมี Eco Chic Technology™ เทคโนโลยีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ใส่สารต้านอนุมูลอิสระ Acai และ Goji Berry มาช่วยชะลอการเสื่อมโทรม ฟื้นฟูเซลล์ผิวและลดการเกิดสิว นอกจากจะเป็นครีมรักษาสิวอุดตันแล้วยังมี Green Tea และผล Fig มาช่วยให้ผิวนุ่มลื่น ซ่อมแซมและฟื้นฟูผิวให้สุขภาพดียิ่งขึ้นด้วยนะ

เนื้อสัมผัส : เป็นเนื้อครีม ทาแล้วไปแล้วผิวจะนุ่มมากถึงมากที่สุด

เหมาะกับใคร : สาวผิวไม่แข็งแรง แพ้ง่าย รักความออร์แกนิก

ปริมาตร : 4 Oz หรือ 118.3 ml.

ราคา : 690 บาท (ml. ละ 5.85 บาท)

พิกัด : ร้าน All About You  

AMIRA 97% Organic Argan Plus C 

จุดเด่น : มีสารสกัด Argan Oil, Vitamin C บริสุทธิ์ และ Mint Extract ช่วยลดรอยหมองคล้ำ รอยดำจากสิว และยังช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดสิว ทำให้ผิวเนียนนุ่มขึ้น โดยเฉพาะสารสกัดจากใบมินต์จากญี่ปุ่นที่มีฤทธิ์ในการยับยั้งเชื้อโรคได้ครอบคลุม และมีการระคายเคืองต่ำ เป็นตัวฆ่าเชื้อสิว ทําให้สิวที่เกิดใหม่ฝ่อตัวลง มีส่วนทำให้ผิวหน้าดูสดใสมากยิ่งขึ้น แถมยังเป็น Natural Botox ช่วยลดริ้วรอยและแต่งหน้าติดทนนานยิ่งขึ้น

เนื้อสัมผัส : เป็นเนื้อออยล์ เกลี่ยง่าย ไม่อุดตันผิว 

เหมาะกับใคร : สาวเป็นสิวที่มีปัญหาผิวแห้ง ผิวหมองคล้ำ ขาดความกระชับ

ปริมาตร : 15 ml.

ราคา : 750 บาท (ml. ละ 50 บาท)

พิกัด : All About You, Eveandboy และ Ecotopia 

Paula’s Choice Skin Perfecting 2% BHA Liquid 

จุดเด่น : เป็นผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิวที่ขายดีเป็นอันดับ 1 ทั่วโลก มี BHA ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนของผิว ช่วยให้ผิวใหม่เรียบเนียนขึ้น และยังช่วยต่อต้านเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของการเกิดสิว ลดการเกิดสิวอุดตัน กระชับรูขุมขน ลดเลือนจุดด่างดำ สีผิวที่ไม่สม่ำเสมอ รอยแผลเป็นต่างๆ ให้จางลง ตัวนี้ไม่มีน้ำหอมและสีสังเคราะห์ มีค่า pH อยู่ที่ช่วง 3.2-3.6 ซึ่งช่วยผลัดเซลล์ผิวโดยไม่กัดกร่อนผิว 

เนื้อสัมผัส : เป็นสูตรน้ำ เนื้อบางเบา แห้งเร็ว และซึมไว

เหมาะกับใคร : สาวผิวมัน รูขุมขนอุดตันง่าย มีปัญหาสิวอักเสบ สิวอุดตัน สิวหัวดำ สิวเสี้ยน ผิวไม่ราบเรียบ และมีริ้วรอยแห่งวัย

ปริมาตร : 118 ml.

ราคา : 1,250 บาท (ml. ละ 10.59 บาท)

พิกัด : PAULA’S CHOICE @ SIAM DISCOVERY ชั้น 3 

Etude Soon Jung 10-Free Moist Emulsion 

จุดเด่น : ตัวนี้เคลมว่าเป็น 10 Free เลยทีเดียว คือไม่มีสารจะทำให้เกิดการแพ้และการระคายเคือง มีค่า pH ที่ใกล้เคียงกับผิวด้วยจึงไม่ทำร้ายผิวให้บอบบาง แถมมีแพนเท็นโซไซด์™ ช่วยเสริมสร้างเกราะป้องกันผิวให้ผิวแข็งแรงขึ้น กับมี Madecassoside ช่วยลดริ้วรอยและลดการอักเสบของสิว ผ่านการทดสอบแล้วนะว่าไม่ก่อให้เกิดสิวและการอุดตัน สาวผิวแพ้ง่ายคือเหมาะมาก ๆ เลยล่ะ

เนื้อสัมผัส : เนื้ออีมัลชั่นสีขาว บางเบา ทาแล้วแตกตัวเป็นน้ำ ๆ ไม่อึดอัดผิว ทาแล้วสดชื่นมาก ๆ

เหมาะกับใคร : สาวผิวบอบบาง แพ้ง่าย ที่ต้องเจอมลภาวะบ่อย ๆ

ปริมาตร : 120 ml.

ราคา : 620 บาท (ml. ละ 5.17 บาท)

พิกัด : Etude House ทุกสาขา